5เคล็ดลับเพิ่มความปลอดภัยเมื่อทำงานกับเครนและปั้นจั่น

ปั้นจั่น หรือ เครน ถือเป็นเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่การก่อสร้าง งานขนย้ายในโรงงานและคลังสินค้า ไปจนถึงการปฏิบัติงานในท่าเรือ ด้วยความสามารถในการยกและเคลื่อนย้ายวัตถุที่มีน้ำหนักมาก ปั้นจั่นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดระยะเวลาการทำงานได้อย่างมหาศาล อย่างไรก็ตาม พลังอันมหาศาลนี้ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูง หากการใช้งานขาดความระมัดระวังและความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง อุบัติเหตุจากปั้นจั่นสามารถนำไปสู่ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินได้อย่างรุนแรง

ข่าวดีก็คือ อุบัติเหตุส่วนใหญ่สามารถป้องกันได้! เพียงแค่เราใส่ใจในรายละเอียดและปฏิบัติตามหลัก ความปลอดภัยในการทำงานกับปั้นจั่น อย่างเคร่งครัด วันนี้เราขอนำเสนอ “5 เคล็ดลับง่ายๆ ยกระดับความปลอดภัยในการทำงานกับปั้นจั่นที่คุณไม่ควรมองข้าม” เพื่อให้ทุกการยกเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยสำหรับทุกคน

1. ตรวจสอบปั้นจั่นอย่างละเอียดก่อนเริ่มงานทุกครั้ง (Pre-Operation Inspection is Key)

“กันไว้ดีกว่าแก้” คือคำกล่าวที่ใช้ได้เสมอ โดยเฉพาะกับการทำงานกับเครื่องจักรหนักอย่างปั้นจั่น ก่อนเริ่มการใช้งานในแต่ละวัน หรือแต่ละกะ ผู้ควบคุมปั้นจั่น (Crane Operator) และผู้เกี่ยวข้องต้องทำการตรวจสอบส่วนประกอบสำคัญต่างๆ ของปั้นจั่นอย่างละเอียดตามรายการตรวจสอบ (Checklist) ที่กำหนด ซึ่งโดยทั่วไปจะครอบคลุมถึง:

  • โครงสร้างหลัก: ตรวจสอบรอยร้าว การบิดงอ หรือความเสียหายอื่นๆ
  • ระบบควบคุม: ทดสอบการทำงานของคันบังคับ ปุ่มควบคุมต่างๆ ให้มั่นใจว่าตอบสนองได้อย่างถูกต้อง
  • สลิง (Wire Ropes): ตรวจสอบการสึกหรอ เส้นลวดขาด การบิดเป็นเกลียว หรือสนิม
  • ตะขอ (Hooks): ตรวจสอบการบิดเบี้ยว รอยร้าว และสลักนิรภัย (Safety Latch) ว่ายังทำงานได้ดี
  • ระบบความปลอดภัย: เช่น ลิมิตสวิตช์ (Limit Switches) สัญญาณเตือนต่างๆ ระบบเบรก
  • ระบบไฮดรอลิก (ถ้ามี): ตรวจสอบระดับน้ำมัน การรั่วซึม
  • ป้ายบอกพิกัดยก (Load Chart/Capacity Plate): ต้องชัดเจนและอ่านได้ง่าย
  • สภาพพื้นที่ทำงาน: ตรวจสอบความมั่นคงของพื้นดิน สิ่งกีดขวาง และระยะห่างจากสายไฟฟ้าแรงสูง

หากพบความผิดปกติแม้เพียงเล็กน้อย ต้องหยุดใช้งานและแจ้งให้ผู้รับผิดชอบดำเนินการแก้ไขทันที อย่าเสี่ยงใช้งานปั้นจั่นที่อยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์เด็ดขาด!

2. ผู้ปฏิบัติงานต้องผ่านการอบรมและมีคุณสมบัติเหมาะสม (Qualified and Trained Personnel Only)

การควบคุมปั้นจั่นไม่ใช่เรื่องที่ใครก็ทำได้ ผู้ที่จะปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับปั้นจั่น ไม่ว่าจะเป็น ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ให้สัญญาณแก่ผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ยึดเกาะวัสดุ (Rigger) และ ผู้ควบคุมการยก (Lift Supervisor) จำเป็นต้อง:

  • ผ่านการฝึกอบรม: เข้ารับการ อบรมปั้นจั่น ตามหลักสูตรที่กฎหมายกำหนด (เช่น กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ปั้นจั่น และหม้อน้ำ พ.ศ. 2564) และได้รับใบอนุญาตหรือใบรับรองอย่างถูกต้อง
  • มีความรู้ความเข้าใจ: เกี่ยวกับประเภทของปั้นจั่นที่ใช้งาน ขีดจำกัดความสามารถในการยก การอ่านตารางพิกัดยก (Load Chart) สัญญาณมือมาตรฐาน และขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ปลอดภัย
  • มีสุขภาพร่างกายที่พร้อม: ไม่เจ็บป่วยหรือมีอาการที่อาจส่งผลต่อความสามารถในการควบคุมหรือตัดสินใจ

การลงทุนในการฝึกอบรมบุคลากรคือการลงทุนในความปลอดภัยขององค์กรคุณเอง

3. การสื่อสารที่ชัดเจนและบทบาทที่กำหนด (Clear Communication and Defined Roles)

การทำงานกับปั้นจั่นมักเกี่ยวข้องกับทีมงานหลายคน การสื่อสารที่ชัดเจนและเข้าใจตรงกันระหว่างผู้บังคับปั้นจั่น ผู้ให้สัญญาณ และผู้ยึดเกาะวัสดุจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด:

  • ใช้สัญญาณมือมาตรฐาน: ทุกคนในทีมต้องเข้าใจและใช้สัญญาณมือที่เป็นมาตรฐานสากลหรือตามที่ตกลงกันไว้ หากทัศนวิสัยไม่ดี ควรใช้วิทยุสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
  • ผู้ให้สัญญาณ (Signal Person): ควรมีเพียงคนเดียวที่ทำหน้าที่ให้สัญญาณแก่ผู้บังคับปั้นจั่น เพื่อป้องกันความสับสน ผู้ให้สัญญาณต้องอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นทั้งผู้บังคับปั้นจั่นและจุดที่ทำการยก-วางวัสดุได้อย่างชัดเจน
  • การประชุมก่อนเริ่มงาน (Pre-Lift Meeting): เพื่อทบทวนแผนการยก บทบาทหน้าที่ของแต่ละคน และขั้นตอนความปลอดภัยก่อนเริ่มปฏิบัติงานจริง

4. วางแผนการยกอย่างรอบคอบ (Meticulous Lift Planning)

“การวางแผนที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” การยกแต่ละครั้งต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ โดยพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:

  • น้ำหนักของวัสดุที่จะยก (Load Weight): ต้องทราบน้ำหนักที่แน่นอน และต้องไม่เกินพิกัดการยกอย่างปลอดภัยของปั้นจั่น (Safe Working Load – SWL) ณ รัศมีการทำงานนั้นๆ
  • จุดศูนย์ถ่วงของวัสดุ (Center of Gravity): เพื่อให้การผูกยึดเป็นไปอย่างมั่นคงและวัสดุไม่เอียงหรือพลิกคว่ำขณะยก
  • เส้นทางการยก (Lift Path): กำหนดเส้นทางการเคลื่อนย้ายวัสดุที่ชัดเจน หลีกเลี่ยงการยกข้ามศีรษะคน หรือผ่านสิ่งกีดขวาง
  • สภาพแวดล้อม: เช่น ความเร็วลม (อาจต้องหยุดการทำงานหากลมแรงเกินไป) สภาพพื้นดินที่ตั้งปั้นจั่นต้องมั่นคง ไม่ทรุดตัว
  • อุปกรณ์ช่วยยก (Lifting Gear): เลือกใช้อุปกรณ์ (สลิง โซ่ สะเก็น ฯลฯ) ที่เหมาะสมกับน้ำหนักและลักษณะของวัสดุ และต้องอยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งาน

การจัดทำ แผนการยก (Lifting Plan) เป็นลายลักษณ์อักษรสำหรับงานยกที่มีความซับซ้อนหรือมีความเสี่ยงสูง ถือเป็นแนวปฏิบัติที่ดีเยี่ยม

5. ตระหนักถึงสภาพแวดล้อมและกำหนดเขตอันตราย (Situational Awareness and Exclusion Zones)

การตระหนักรู้ถึงสิ่งที่อยู่รอบตัวเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันอุบัติเหตุ:

  • กำหนดเขตอันตราย (Exclusion Zone/Danger Zone): กั้นพื้นที่รอบปั้นจั่นและบริเวณที่ทำการยกให้ชัดเจน ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวโดยเด็ดขาด
  • ระวังสายไฟฟ้าแรงสูง: รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากแนวสายไฟฟ้าตามที่กฎหมายกำหนดเสมอ หากไม่แน่ใจให้ติดต่อการไฟฟ้าเพื่อขอคำแนะนำ
  • สังเกตบุคคลและสิ่งกีดขวาง: ผู้บังคับปั้นจั่นและผู้ให้สัญญาณต้องคอยสังเกตการณ์โดยรอบตลอดเวลา เพื่อป้องกันการชนหรือการหนีบ
  • ห้ามคนอยู่ใต้วัสดุที่กำลังยก: เป็นกฎเหล็กที่ต้องยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

ทำไม 5 เคล็ดลับนี้จึงสำคัญ?

การนำ 5 เคล็ดลับง่ายๆ เหล่านี้ไปปรับใช้ ไม่เพียงแต่จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานกับปั้นจั่น แต่ยังส่งผลดีในระยะยาวต่อองค์กร เช่น:

  • ปกป้องชีวิตพนักงาน: ลดการบาดเจ็บ การสูญเสียอวัยวะ หรือการเสียชีวิต
  • ลดความเสียหายต่อทรัพย์สิน: ทั้งตัวปั้นจั่น วัสดุที่ยก และโครงสร้างอาคาร
  • ปฏิบัติตามกฎหมาย: หลีกเลี่ยงค่าปรับหรือการถูกดำเนินคดี
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: เมื่อพนักงานรู้สึกปลอดภัย ย่อมทำงานได้อย่างมั่นใจและมีสมาธิ
  • สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง: ส่งเสริมให้ทุกคนในองค์กรตระหนักและให้ความสำคัญกับความปลอดภัย

TAGS: #อบรม, #ปั้นจั่น, #เครน , #คลังสินค้า

ABOUT THE AUTHOR
ไพรลาศ  ดีโต
Digital Marketing

ปิด