“ที่สูง” ในความหมายของความปลอดภัยคืออะไร?

การทำงานในที่สูงเป็นลักษณะงานที่พบเห็นได้บ่อยในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง, งานซ่อมบำรุง, งานติดตั้ง, งานทำความสะอาดกระจกอาคารสูง หรืองานในโรงงานอุตสาหกรรม แม้จะเป็นงานที่จำเป็น แต่ก็แฝงไปด้วย อันตรายจากการทำงานในที่สูง ที่ร้ายแรง ซึ่ง “การพลัดตก” ถือเป็นสาเหตุหลักของการบาดเจ็บรุนแรง พิการ หรือเสียชีวิต การตระหนักถึงความเสี่ยงเหล่านี้ พร้อมทั้งการมี มาตรการป้องกันการทำงานในที่สูง ที่ถูกต้องและรัดกุม รวมถึงการผ่าน อบรมทำงานในที่สูง จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเลยได้

บทความนี้จะเจาะลึกถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการทำงานบนที่สูง และแนะนำมาตรการป้องกันที่สำคัญ รวมถึงชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นของหลักสูตรการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกคนทำงานได้อย่างปลอดภัย

“ที่สูง” ในความหมายของความปลอดภัยคืออะไร?

ตาม กฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน กรณีทำงานในที่สูงและที่ลาดชัน พ.ศ. 2564 (บังคับใช้ ณ วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ซึ่งเป็นวันปัจจุบันที่ให้ข้อมูลนี้) ได้ให้นิยาม “ที่สูง” หมายถึง สถานที่ทำงานที่สูงจากพื้นดินหรือจากพื้น рабочей หรือพื้นชั้นที่กำลังทำงานตั้งแต่ สองเมตรขึ้นไป ซึ่งลูกจ้างอาจพลัดตกลงมาได้

ดังนั้น งานใดก็ตามที่เข้าข่ายลักษณะนี้ จำเป็นต้องมีการจัดการด้านความปลอดภัยเป็นพิเศษ

เจาะลึกอันตรายหลักจากการทำงานในที่สูง

ความเสี่ยงจากการทำงานบนที่สูงไม่ได้มีเพียงการพลัดตกของผู้ปฏิบัติงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึง:

  1. การพลัดตกจากที่สูงของบุคคล (Falls of Persons from Height):
    • เป็นอันตรายที่ร้ายแรงที่สุดและพบบ่อยที่สุด อาจเกิดจากการลื่น, สะดุด, ก้าวพลาด, การสูญเสียการทรงตัว, การทำงานบนพื้นผิวที่ไม่มั่นคง หรือการไม่มีอุปกรณ์ป้องกันการตกที่เหมาะสม
  2. วัตถุตกจากที่สูง (Falling Objects):
    • เครื่องมือ, วัสดุ, หรือเศษซากจากการทำงาน อาจตกหล่นลงมาทำอันตรายต่อผู้ที่อยู่ด้านล่างได้
  3. การพังทลายของอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำงานบนที่สูง (Collapse of Access Equipment):
    • เช่น นั่งร้านที่ไม่มั่นคงแข็งแรง, บันไดที่ชำรุดหรือตั้งวางไม่ถูกวิธี, หรือรถกระเช้า (MEWP) ที่ขาดการตรวจสอบและบำรุงรักษา
  4. อันตรายจากสภาพแวดล้อม (Environmental Hazards):
    • กระแสไฟฟ้า: การทำงานใกล้สายไฟฟ้าแรงสูงโดยไม่มีมาตรการป้องกัน
    • สภาพอากาศ: ลมแรง, ฝนตก, หรือพื้นผิวที่เปียกลื่น อาจเพิ่มความเสี่ยงในการพลัดตก
    • แสงสว่างไม่เพียงพอ: ทำให้มองเห็นทางเดินหรืออันตรายไม่ชัดเจน
  5. ผลกระทบที่ตามมา (Consequences):
    • การบาดเจ็บเล็กน้อยจนถึงขั้นรุนแรง, พิการถาวร, หรือเสียชีวิต
    • ความเสียหายต่อทรัพย์สินและอุปกรณ์
    • การหยุดชะงักของงานและผลกระทบต่อกำหนดการโครงการ
    • ผลกระทบทางกฎหมายและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง

มาตรการป้องกันอันตรายจากการทำงานในที่สูง

การป้องกันอุบัติเหตุจากการทำงานในที่สูงต้องอาศัยการวางแผนและการจัดการอย่างเป็นระบบ โดยยึดหลักการควบคุมความเสี่ยง (Hierarchy of Controls):

  1. การกำจัด (Elimination):
    • พิจารณาว่าสามารถทำงานนั้นจากพื้นดินได้หรือไม่ เช่น การใช้อุปกรณ์ด้ามยาว หรือการประกอบชิ้นส่วนบนพื้นแล้วค่อยยกติดตั้ง
  2. การทดแทน (Substitution):
    • ใช้วิธีการเข้าถึงที่ปลอดภัยกว่า เช่น ใช้รถกระเช้าแทนการใช้บันไดพาดในบางลักษณะงาน
  3. การควบคุมทางวิศวกรรม (Engineering Controls):
    • ติดตั้งราวกั้น (Guardrails): บริเวณขอบเปิด ช่องเปิด หรือทางเดินบนที่สูง ต้องมีราวกั้นที่แข็งแรงตามมาตรฐาน
    • ติดตั้งตาข่ายนิรภัย (Safety Nets): ในบริเวณที่อาจมีการพลัดตกและไม่สามารถใช้ราวกั้นได้
    • การติดตั้งนั่งร้าน (Scaffolding): ต้องออกแบบ ประกอบ และตรวจสอบโดยผู้มีความรู้ความสามารถ และมีการใช้งานที่ถูกต้อง
    • จุดยึด (Anchor Points): สำหรับอุปกรณ์ป้องกันการตกส่วนบุคคลต้องมีความแข็งแรงเพียงพอและผ่านการรับรอง
  4. การควบคุมเชิงบริหารจัดการ (Administrative Controls):
    • การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment): ก่อนเริ่มงานทุกครั้ง ต้องมีการชี้บ่งอันตรายและประเมินความเสี่ยง เพื่อกำหนดมาตรการควบคุมที่เหมาะสม
    • การจัดทำแผนการทำงาน (Work Plan / Method Statement): กำหนดขั้นตอนการทำงานที่ปลอดภัย
    • การขออนุญาตทำงาน (Permit to Work): สำหรับงานที่มีความเสี่ยงสูง
    • การฝึกอบรม (Training): ผู้ปฏิบัติงานทุกคนต้องผ่าน การอบรมการทำงานในที่สูง
    • การตรวจสุขภาพ: ผู้ปฏิบัติงานต้องมีสุขภาพร่างกายที่เหมาะสม
    • การจัดให้มีผู้ควบคุมงาน (Supervisor): คอยกำกับดูแลการทำงานให้เป็นไปตามมาตรการความปลอดภัย
    • การกำหนดเขตอันตราย: ป้องกันผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้พื้นที่ทำงาน
    • แผนการช่วยเหลือและกู้ภัย (Rescue Plan): เตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
  5. อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment – PPE):
    • เป็นมาตรการสุดท้ายเมื่อไม่สามารถควบคุมความเสี่ยงด้วยวิธีอื่นได้เพียงพอ
    • อุปกรณ์ป้องกันการตกส่วนบุคคล (Personal Fall Arrest System – PFAS): ประกอบด้วย
      • เข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัว (Full-Body Harness): ชนิดที่เหมาะสมกับลักษณะงาน
      • สายช่วยชีวิต (Lanyard): พร้อมอุปกรณ์ดูดซับแรงกระแทก (Shock Absorber) หากเป็นการทำงานที่อาจเกิดการตกแบบอิสระ
      • จุดยึด (Anchorage Point): ที่มีความแข็งแรงและติดตั้งอย่างถูกต้อง
    • หมวกนิรภัย (Safety Helmet): พร้อมสายรัดคาง
    • รองเท้านิรภัย (Safety Shoes): ชนิดกันลื่น
    • อุปกรณ์อื่นๆ: เช่น ถุงมือ, แว่นตานิรภัย ตามความจำเป็น

ความสำคัญของการอบรม: หลักสูตรการทำงานในที่สูง

กฎหมายไทย (กฎกระทรวงฯ พ.ศ. 2564) กำหนดให้นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างซึ่งทำงานในที่สูงผ่านการฝึกอบรมเกี่ยวกับการทำงานบนที่สูง การป้องกันและควบคุมอันตรายจากการทำงานบนที่สูง รวมถึงการใช้อุปกรณ์และวิธีการทำงานที่ถูกต้องและปลอดภัย หลักสูตรการทำงานในที่สูง จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยทั่วไปเนื้อหาจะครอบคลุม:

  • กฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในที่สูง
  • การชี้บ่งอันตรายและการประเมินความเสี่ยงในการทำงานบนที่สูง
  • ประเภทของอุปกรณ์ป้องกันการตกจากที่สูง การเลือกใช้ การตรวจสอบ และการบำรุงรักษา
  • การสวมใส่และใช้งานอุปกรณ์ป้องกันการตกส่วนบุคคล (PFAS) อย่างถูกต้อง
  • ขั้นตอนการทำงานที่ปลอดภัยสำหรับวิธีการเข้าถึงที่สูงแบบต่างๆ (บันได, นั่งร้าน, รถกระเช้า)
  • การติดตั้งและตรวจสอบจุดยึดเบื้องต้น
  • แผนการช่วยเหลือฉุกเฉินและขั้นตอนการกู้ภัยเบื้องต้น

ประโยชน์ของการอบรม:

  • ผู้ปฏิบัติงานมีความรู้ความเข้าใจในอันตรายและวิธีป้องกัน
  • สามารถใช้อุปกรณ์ป้องกันการตกได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
  • ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสีย
  • นายจ้างปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมาย
  • สร้างความมั่นใจและวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร

บทบาทของนายจ้างและลูกจ้างในการป้องกัน

  • นายจ้าง: มีหน้าที่จัดให้มีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย, จัดหาอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน, จัดให้มีการฝึกอบรม, กำหนดขั้นตอนการทำงานที่ปลอดภัย, ประเมินความเสี่ยง, และควบคุมดูแลให้มีการปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย
  • ลูกจ้าง: มีหน้าที่ปฏิบัติตามขั้นตอนการทำงานที่ปลอดภัย, ใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลที่นายจ้างจัดให้อย่างถูกต้อง, เข้ารับการฝึกอบรม, ตรวจสอบอุปกรณ์ก่อนใช้งาน, และรายงานสภาพที่ไม่ปลอดภัยหรืออุบัติเหตุให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

TAGS: #อบรม, #อบรมการทำงานบนที่สูง, #อบรมที่สูง, #การทำงานบนที่สูง, #ความปลอดภัยในการทำงานบนที่สูง

ABOUT THE AUTHOR
ไพรลาศ  ดีโต
Digital Marketing

ปิด